อัปเดตแผนการปรับโครงสร้างและการจัดการ Tidlor Holdings


บริษัท ติดล้อ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“Tidlor Holdings”) ได้จัดตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้ว และเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใต้ชื่อย่อ “TIDLOR” ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 แทนบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกัน โดยประสบความสำเร็จในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ด้วยอัตราการแลกหุ้นสูงถึง 99.4% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้น

การปรับโครงสร้างธุรกิจสู่รูปแบบโฮลดิ้งส์ส่งผลให้บริษัทมีความคล่องตัวในการบริหารงาน เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการจ่ายเงินปันผล ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อราคาหุ้นและกำไรต่อหุ้น (EPS Dilution) ปัจจุบัน บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจภายใต้โครงสร้าง Tidlor Holdings โดยยังคงมุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียน) ภายใต้แบรนด์ “เงินติดล้อ” ธุรกิจนายหน้าประกันภัยผ่านสาขา ภายใต้แบรนด์ “ประกันติดโล่” และการพัฒนา InsurTech Platform ภายใต้แบรนด์ “Areegator” และ “heygoody.com”

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการแยกธุรกิจ InsurTech ออกจากบริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการกำหนดกลยุทธ์ การบริหาร และการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยในรูปแบบ InsurTech Platform โดยบริษัทจะประกาศความคืบหน้าให้ทราบในลำดับถัดไป

บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าการปรับโครงสร้างในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว


คำถามที่เกี่ยวข้อง

การปรับโครงสร้างมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท โดยเหตุผลหลักมีดังนี้:

  • 1. แยกธุรกิจที่มีลักษณะแตกต่างกันออกจากกัน เพื่อให้บริหารจัดการได้ชัดเจนและคล่องตัวมากขึ้น
  • 2. ใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญให้เกิดประโยชน์สูงสุดในภาพรวมของกลุ่ม (economies of scale)
  • 3. เพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการบริหารโดยทีมที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
  • 4. เพิ่มความยืดหยุ่นในการขยายธุรกิจ เพื่อรองรับโอกาสในอนาคต
  • 5. บริหารความเสี่ยงได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแยกทรัพย์สินและการดำเนินงานของแต่ละกิจการให้ชัดเจน จำกัดผลกระทบจากความเสี่ยงของธุรกิจอื่นๆ ให้อยู่ในบริษัทย่อย
  • 6. เปิดโอกาสในการลดภาระภาษีสำหรับผู้ถือหุ้นจากการได้รับหุ้นปันผลของ บมจ.เงินติดล้อ

นอกจากนี้ ยังช่วยสะท้อนศักยภาพการดำเนินงานจริงของแต่ละธุรกิจ ทำให้เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมได้ชัดเจน และเป็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่มบริษัท

Tidlor Holdings มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 20% ของกำไรสุทธิ (ตามงบการเงินรวม) หลังจากหักภาษีและเงินสำรองต่างๆ ตามที่กฎหมายและบริษัทกำหนด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลของ บมจ. เงินติดล้อ ที่ใช้ในปัจจุบัน

Tidlor Holdings ทำหน้าที่ถือหุ้นในบริษัทย่อยอื่น และไม่มีการประกอบธุรกิจเป็นของตนเอง โดยเป็นหน่วยงานด้านการลงทุนและจัดสรรเงินทุนของกลุ่มบริษัท รวมถึงกำกับดูแลโครงสร้างและนโยบายโดยรวม เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคต

บมจ.เงินติดล้อ จะยังคงมุ่งเน้นที่ธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียน) ภายใต้แบรนด์เงินติดล้อ และธุรกิจนายหน้าประกันภัย ผ่านช่องทางสาขา ภายใต้แบรนด์ประกันติดโล่ ซึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในด้านธุรกิจหลัก กลยุทธ์ และการดำเนินงาน

บริษัทใหม่ หลังจากการจัดตั้งและซื้อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยในรูปแบบ Insurtech จาก บมจ.เงินติดล้อ เรียบร้อยแล้ว บริษัทใหม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มเความคล่องตัวในการกำหนดกลยุทธ์ การบริหาร และดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ กับธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยในรูปแบบ InsurTech (Insurtech platform)

  • 1. หุ้น บมจ. เงินติดล้อ จะไม่ได้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกต่อไปเนื่องจากจะถูกเพิกถอนจากการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
  • 2. ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้แลกหุ้นจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของบมจ. เงินติดล้อ และได้รับเงินปันผลจากผลประกอบการของบมจ. เงินติดล้อ เช่นเดิม
  • 3. ผู้ถือหุ้น บมจ. เงินติดล้อ จะไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ Tidlor Holdings ในอนาคต

สำหรับผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้แลกหุ้น

ข้อมูลสำหรับผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้แลกหุ้น